ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดพุ่ง $9.10 จากกระแสคาดเฟดใช้มาตรการ QE

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 12, 2010 07:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินในการประชุมต้นเดือนหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 9.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,354.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.244 เซนต์ ปิดที่ 23.349 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 17.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,690.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 588.75 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำยังคงปิดในแดนบวกแม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อคืนนี้ โดยนักลงทุนยังคงเข้ามาซื้อเก็งกำไรเพราะเชื่อมั่นว่าเฟดจะใช้มาตรการ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ซึ่งสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในระบบการเงินจะฉุดสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง แต่การอ่อนค่าของดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะหนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้น

นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเรื่องการใช้มาตรการ QE ของเฟดนั้น จะหนุนสัญญาทองคำให้เคลื่อนไหวที่ระดับ 1,315 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีหน้า และมีความเป็นไปได้ที่ราคาทองจะพุ่งขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,512 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีการจ้างงานเดือนก.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดค้าปลีกเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ