สำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ทางสำนักงานจะเดินหน้าสกัดกระแสเงินเก็งกำไรจากต่างประเทศต่อไป รวมทั้งกวาดล้างการทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย โดยยอมรับว่า กระแสเงินร้อนที่หลั่งไหลเข้าประเทศจีนนั้นถือเป็นปัญหาระยะยาวและมีความซับซ้อน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การออกมาย้ำถึงจุดยืนในการกวาดล้างกระแสเงินร้อนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ SAFE ได้ดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกระแสเงินร้อนจำนวน 190 กรณี ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 7.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่จีนเริ่มดำเนินการเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมาในมณฑลและเทศบาลต่างๆ 13 แห่งที่มีบริการธุรกิจปริวรรตเงินตราต่างประเทศ
รายงานของ SAFE ระบุว่า กระแสเงินเก็งกำไรที่ไหลเข้าประเทศจีนนั้น มีสาเหตุมาจากกลุ่มนักเก็งกำไรที่เชื่อว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจเป็นเพราะรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งได้ผ่อนปรนการควบคุมเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ อัตราอ้างอิงของเงินหยวนวันนี้อ่อนตัวลง 0.43% แตะ 6.6775 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ทำนิวไฮที่ระดับ 6.6732 หยวนต่อดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 ต.ค.)
เงินหยวนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และมีความผันผวนมากขึ้น นับตั้งแต่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ว่า จะปฏิรูปกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับอัตราแลกเปลี่ยน
จากตัวเลขอ้างอิงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอีกประมาณ 2.26% นับตั้งแต่ที่มีการกำหนดอัตราอ้างอิงไว้ที่ 6.8275 หยวนต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. หรือก่อนที่ธนาคารกลางจีนจะประกาศนโยบายปฏิรูป 1 วัน
อย่างไรก็ดี รายงานของ SAFE ระบุว่า การปฏิรูประบบปริวรรตเงินตราของจีนนั้นไม่ใช่การทำให้เงินหยวนแข็งค่า และยังได้แนะนำนักลงทุนให้ระมัดระวังความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน