ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 31.79 จุด หรือ 0.3% แตะที่ระดับ 11,062.78 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2.38 จุด หรือ 0.2% ปิดที่ 1,176.19 จุด และดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้น 33.39 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 2,468.77 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ต.ค.) หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่มีความชัดเจน โดยล่าสุดภาคธุรกิจธนาคารในสหรัฐส่อเค้าเผชิญวิกฤตการณ์ระลอกใหม่เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตรับจำนอง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ราคาสัญญาพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนก่อน (14 ต.ค.) ขณะเดียวกันสัญญาทองคำยังปรับตัวลดลงจากปัจจัยของเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,372 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,362.70 - 1,386.40 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ต.ค.) โดยเงินดอลลาร์ไม่มีปฏิกิริยาในแง่ลบต่อถ้อยแถลงของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศถึงความพร้อมใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมแต่อย่างใด
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.73% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร โดยเงินยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.3975 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดี (14 ต.ค.) ที่ 1.4078 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9582 ฟรังค์ จากระดับ 0.9527 ฟรังค์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ต.ค.) หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นของสหรัฐประจำเดือนต.ค.ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันมีมุมมองในแง่ลบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 23.84 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 5,703.37 จุด