นายหวัง เจ้าชิง รองประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารจีน (CBRC) เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์จีนปรับดุลบัญชีของธนาคารให้มีความสมดุลและลดการพึ่งพาการปล่อยกู้เพื่อหวังผลกำไร นอกจากนี้ นายหวังยังแนะนำให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มคุณภาพของสินทรัพย์ และเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง
นายหวังกล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ไม่ควรหวังผลกำไรมากเกินไปจากการเพิ่มปริมาณการปล่อยเงินกู้ และเตือนว่าช่องว่างระหว่างอัตราการปล่อยเงินกู้และอัตราการออมที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจะทำให้ฐานเงินทุนของธนาคารตกอยู่ในภาวะที่ไม่ยั่งยืน
ธนาคารพาณิชย์ของจีนเริ่มปล่อยวงเงินกู้ในปริมาณมากตั้งแต่ปี 2552 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4 ล้านล้านหยวน (6.01 แสนล้านดอลลาร์) ที่รัฐบาลประกาศใช้เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินโลก ส่งผลให้ปริมาณการปล่อยเงินกู้ของจีนในปีที่แล้วมีอยู่เกือบ 9.6 ล้านล้านหยวน ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่าธนาคารพาณิชย์ของจีนอาจเผชิญกับภาวะเงินกู้หนี้สูญ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารจีนในเดือนส.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 5.452 แสนล้านหยวน (8.053 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 5.328 แสนล้านหยวน ส่งผลให้ยอดการปล่อยกู้โดยรวมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ระดับ 5.70 ล้านล้านหยวน
ส่วนปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมถึงกระแสเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทุกประเภท พุ่งขึ้น 19.2% ต่อปีในเดือนส.ค. สู่ระดับ 68.75 ล้านล้านหยวน ขณะที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 ซึ่งครอบคลุมถึงกระแสเงินสดหมนุเวียนและเงินฝากของกลุ่มนิติบุคคล เพิ่มขึ้น 21.9% สู่ระดับ 24.43 ล้านล้านหยวนในเดือนส.ค.