China Todayข่าวเศรษฐกิจมหภาคจีนประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 2, 2010 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จีนได้เริ่มนับจำนวนประชากรอีกครั้งในรอบ 10 ปีเมื่อวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่สำรวจสัมโนประชากร 6 ล้านคนจะเริ่มสำรวจตามบ้านในช่วง 10 วันข้างหน้านี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลสัมโนประชากรและข้อมูลที่มีความเปลี่ยนแปลงในประเทศที่มีประชากรสูงสุดในโลก

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของครม.จีน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การสำรวจสัมโนประชากรถือเป็นวิธีการที่ดีกว่าในการหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศ และยังช่วยวางพื้นฐานในการตัดสินใจหรือกำหนดนโยบาย

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยรายงานเรื่องการค้าระหว่างประเทศของจีนว่า ยอดการนำเข้าและการส่งออกประจำปีของจีนมีแนวโน้มว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2.8 ล้านล้านหยวนในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบเป็นรายปี

รายงานยังชี้ด้วยว่า สถานการณ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของจีนในปีนี้ยังไม่แน่นอน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน ต้นทุนภายในประเทศที่สูงขึ้น รวมทั้งแรงกดดันด้านการดำเนินงานที่สูงขึ้นของบริษัทเอกชน

กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนจะขยายตัวต่อไปในปีหน้า แต่จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง

-- ไชน่า บิสิเนส นิวส์รายงานว่า จีนอาจจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบนโยบายมหภาคในปีหน้าไปสู่นโยบายการเงินเชิงรุกและนโยบายการเงินที่รอบคอบจากเดิมที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างนโยบายการเงินเชิงรุกและนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนในระดับปานกลาง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นได้ร่างประเด็นที่สำคัญๆเพื่อนำเสนอในการประชุมด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจัดขึ้นปีละครั้งแล้ว ซึ่งการประชุมดังกล่าวจะมีการกำหนดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังที่ระบุไว้ข้างต้นด้วยเช่นกัน

-- เจีย กัง หัวหน้าฝ่ายวิจัยของสถาบันวิจัย กระทรวงคลังจีน กล่าวว่า นโยบายเงินตราของจีนนั้นปรับเปลี่ยนไปสู่นโยบายที่สนับสนุนความยั่งยืนจากเดิมที่เป็นนโยบายเชิงรุก ปัจจุบัน จีนนั้นอยู่ในช่วงแรกของช่องทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคาดว่า จีนจะค่อยปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า หากเศรษฐกิจโลกไม่ถอยหลังกลับไปสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

-- อัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนคาดว่า จะอยู่ที่ระดับสูงระดับใหม่ในเดือนต.ค. ขณะที่ดัชนีราคาซื้อของระบบดัชนี PMI อยู่ที่ 69.9% ในเดือนต.ค. จะเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

ดัชนีราคาซื้อนั้นปรับตัวขึ้นมา 3 เดือนติดต่อกัน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อแบบสะสม สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ