ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส พบว่า ปริมาณน้ำมันดิบจะหมดไปจากโลก 90 ปี ก่อนที่พลังงานทางเลือกจะถูกใช้อย่างแพร่หลายในทั่วโลก
โดยรายงานการศึกษาของมหาวิทยาลัยระบุว่า อุปทานน้ำมันจะหมดไปจากโลก 90 ปี ก่อนที่จะมีพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานหมุนเวียน มาทดแทนในปริมาณที่เพียงพอกับอุปสงค์
นักวิจัยได้ศึกษาถึงปัจจัยต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมการลงทุนในระยะยาวเพื่อทำนายว่าเมื่อไหร่เทคโนโลยีจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย, บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินงานด้านเชื้อเพลิงที่ไม่ใช่น้ำมัน เช่น บริษัท บลูไฟร์ เอทานอล อิงค์, และ เอ็นโนวา ซิสเท็มส์ อิงค์ และมูลค่าและเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดน้ำมันและตลาดพลังงานทางเลือก
เด็บ นีเมียร์ ศาสตราจารย์สาขาวิศวโยธาและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า มีการทำนายมากมายว่าเมื่อไรน้ำมันจะหมดไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น รูปแบบการใช้พลังงานจะคงที่หรือไม่ จะมีการค้นพบแหล่งน้ำมันใหม่หรือไม่ เทคโนโลยีในการขุดเจาะน้ำมันจะพัฒนาขึ้นมากน้อยขนาดไหน เป็นต้น
นอกจากนี้นักวิจัยยังระบุด้วยว่า นโยบายในปัจจุบันที่กำหนดเป้าหมายสำหรับแบตเตอร์รี่ ไฮโดรเจน เชื้อเพลิงชีวภาพ และ แหล่งพลังงานทางเลือกอื่น ยังคงไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ ผลการศึกษาได้ตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Science and Technology ฉบับเดือนพฤศจิกายน สำนักข่าวซินหัวรายงาน