นายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า(อคส.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคลังสินค้าเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลทั่วประเทศ พบว่าได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมคิดเป็นปริมาณหลักหมื่นตันเท่านั้น โดยคลังสินค้าที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมีเพียง จ.ชลบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกระสอบข้าวเปียกน้ำเสียหาย
ทั้งนี้ อคส.จะทำข้อมูลรายงานความเสียหายให้กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) รวมถึงขอแนวทางในการดำเนินการต่อกับข้าวที่เสียหายเหล่านั้น เช่น ขายทำแป้ง เส้นก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารสัตว์ เป็นต้น
ด้านนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีการกดราคารับซื้อผักใน จ.ราชบุรี เช่น รับซื้อผักกาดขาวในราคาเพียง กก.ละ 1 บาทเท่านั้น ดังนั้นจึงได้สั่งการไปยังกรมการค้าภายในให้นำผลผลิตประเภทพืชผักจากพื้นที่ดังกล่าวไปจำหน่ายในพื้นที่อื่นที่ประชาชนหาซื้อผักได้ยาก ซึ่งเป็นการช่วยกระจายผลผลิตไปยังแหล่งที่ขาดแคลนและช่วยเกษตรกรให้สามารถจำหน่ายผลผลิตได้
รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง นำสินค้าวัสดุก่อสร้างมาบริจาคให้ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อนำไปปลูกสร้างและซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ซึ่งกระทรวงฯ จะกระจายสินค้าให้ถึงมือประชาชนอย่างทั่วถึงต่อไป
สำหรับวัสดุก่อสร้างที่ผู้ประกอบการนำมาบริจาค ได้แก่ ปูนซีเมนต์ 100,000 ถุง(ถุงละ 50 ก.ก.) มูลค่า 13 ล้านบาท, เหล็กเส้น 50 ตัน มูลค่า 1.2 ล้านบาท, สังกะสี 3,000 แผ่น มูลค่า 500,000 บาท, กระเบื้องมุงหลังคา 10,000 แผ่น มูลค่า 500,000 บาท รวมทั้งแผ่นยิปซั่ม ทั้งนี้ผู้ประกอบการสินค้าวัสดุก่อสร้างยังให้ความร่วมมือตรึงราคาขายจนถึงสิ้นปี และจะจัดส่งสินค้าไปยังพื้นที่น้ำท่วมก่อน พร้อมกันนี้ยังกำชับตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดต่างๆ ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาขายเอาเปรียบประชาชนอีกด้วย