สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากการที่จีนมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ จะส่งผลกระทบให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์หดตัวลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 37.80 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. มาปิดที่ระดับ 1,365.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,359.30 - 1,410 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.463 ดอลลาร์ ปิดที่ 25.942 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 12.90 เซนต์ ปิดที่ 3.8935 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 61.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,684.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ทรุดลง 30.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 673.65 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และโลหะมีค่าร่วงลง เนื่องจากมีความวิตกว่า จีนจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็วๆนี้ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550
โดยกระแสคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 เดือน ที่ 4.4% ในเดือนต.ค. ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์กันเป็นวงกว้างว่า CPI ตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ราว 3.1% ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของรัฐบาล