ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: วิตกจีนใช้มาตรการคุมเงินเฟ้อ ฉุดทองคำปิดลบ 70 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 20, 2010 07:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าจีนอาจจะใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อเพิ่มเติมในวันข้างหน้า หลังจากประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์เมื่อวานนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ความต้องการทองคำลดน้อยลงด้วย

สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,352.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 1,341 - 1,362.90 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 34.50 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 27.179 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.4 เซนต์ ปิดที่ 3.8425 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 7.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,671.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 703.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำร่วงลงไปแล้ว 1% ในสัปดาห์นี้ ส่วนเมื่อคืนนี้ ตลาดทองคำได้ปัจจัยลบจากความกังวลที่ว่าการที่จีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ครั้งล่าสุดอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า จีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ความต้องการทองคำในจีนลดน้อยลงด้วย โดยจีนเป็นประเทศที่นำเข้าทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% เมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและลดปริมาณเงินสดที่ภาคธนาคารจะนำไปปล่อยกู้ นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังมีจุดประสงค์ที่จะควบคุมเงินเฟ้อ หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.พุ่งขึ้น 4.4% ทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบปีนี้

เทรดเดอร์บางกลุ่มคาดว่า การที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดระดับลง อาจทำให้ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีกในเร็วๆนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ