สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และอัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.8%
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 16.90 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 1,406.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,385.30 - 1,417 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 69.9 เซนต์ ปิดที่ 29.271 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 3.9990 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 770.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 15.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,728.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนกังวลว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวเต็มที่จะต้องใช้เวลาอีกยาวนาน และอาจทำให้สหรัฐต้องใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นการจ้างงานภายในประเทศ ซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 39,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 9.8% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 9.6%
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และจากการที่นักลงทุนยังคงมองว่าทองคำเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่ยุโรปยังคงเผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะ แม้ธนาคารกลางยุโรปยืนยืนว่าจะขยายโครงการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรปก็ตาม