สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร นอกจากจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ รวมทั้งข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 18.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,386.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,381.20 - 1,398.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 53.50 เซนต์ ปิดที่ 29.253 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์ ปิดที่ 4.2015 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 9.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,704.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 15.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 752.65 ดอลลาร์/ออนซ์
เทรดเดอร์กล่าวว่า ปัจจัยลบที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักมาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเฉพาะยูโรที่ร่วงลงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า มูดีส์อาจจะปรับลดอันดับเครดิตขั้น Aa1 ของสเปน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการกู้ยืม ตัวเลขขาดทุนในภาคธนาคาร และยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังร่วงลงหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพ.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกเหนือจากอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำและสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าแล้ว ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา