สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 6.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,386.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 22.20 เซนต์ ปิดที่ 29.3550 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.7 เซนต์ ปิดที่ 4.2060 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 12.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,710.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 6.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 744.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนแห่ซื้อทองคำและสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงประเภทอื่นๆ รวมถึงพันธบัตรสหรัฐ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากกองทัพเกาหลีใต้ประกาศซ้อมรบทางทะเลโดยใช้กระสุนจริงเมื่อวานนี้ ที่บริเวณใกล้กับเกาะยอนเปียงซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ซูซาน ไรซ์ เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยอมรับว่า คณะมนตรีความมั่นคงทั้ง 15 คนของยูเอ็นไม่สามารถประสานช่องว่างทางความคิดเห็นที่เกิดขึ้นได้ พร้อมกับแสดงความกังวลว่า ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีอาจทวีความรุนแรงขึ้นและอาจจะไม่สามารถคลี่คลายลงได้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลว่า มาตรการช่วยเหลือไอร์แลนด์อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของอีซีบี
เทรดเดอร์ในตลาดทองคำนิวยอร์กคาดว่า สัญญาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ในปี 2554 แต่สำหรับในปีนี้นั้น คาดว่าจะลงทุนอาจลดการทำโพสิชั่น ซึ่งจะส่งผลให้วอลุ่มการซื้อขายลดลงด้วย