สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน โดยในปีนี้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 27%
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,387.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,385.30 - 1,391.70 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 29.385 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.1 เซนต์ ปิดที่ 4.275 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 9.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,730.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 755.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า ปัจจัยที่ทำให้สัญญาทองคำปิดลบเมื่อคืนนี้มาจากการที่ตลาดเข้าสู่ระยะพักฐานในช่วงปลายปี และจากการที่นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน โดยในปีนี้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 27% และทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายที่คึกคักในตลาดหุ้นยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำและย้ายฐานเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์ที่ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 เป็นขยายตัว 2.6% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 2.5% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปิดลบเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะจะลุกลามในยุโรป หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ พร้อมกับเตือนว่าฟิทช์อาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของกรีซลงสู่ "สถานะขยะ" หรือ "สถานะที่ไม่น่าลงทุน" จากปัจจุบันที่ระดับ BBB- ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของ "สถานะที่น่าลงทุน"