ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2553 โดยยืนยันว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ยังคงเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ด้วยการซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลเต็มวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงาน นอกจากนี้ เฟดยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวปานกลางในระยะใกล้นี้ แต่มุมมองของเฟดที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางนั้น แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง
รายงานการประชุมของเฟดระบุว่า คณะกรรมการเฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในระยะใกล้ เนื่องจากข้อมูลที่แข็งแกร่งในภาคการผลิตและการใช้จ่ายผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง
"อัตราการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นปานกลาง แต่อัตราว่างงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงเดือนต.ค.และพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดการส่งออกในเดือนต.ค.ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และตัวเลขการใช้จ่ายด้านอุปกรณ์สำนักงานและซอฟท์แวร์ในภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง" รายงานการประชุมเฟดระบุคณะกรรมการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3 - 3.6% ในปี 2554 ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 3.5 - 4.2% เนื่องจากการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนส่งผลให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมอ่อนแอลงด้วย รวมถึงตลาดที่อยู่อาศัยและการที่นายจ้างยังคงลังเลที่จะเพิ่มการจ้างงาน
ทั้งนี้ คณะกรรมการเฟดได้ตัดสินใจคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0 - 0.25% พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้ามาตรการ QE2 ด้วยการซื้อพันธบัตรเต็มวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและลดอัตราว่างงาน
"ในขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นนั้น คณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับลดวงเงินในมาตรการซื้อพันธบัตร และคณะกรรมการเฟดบางคนมองว่าจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในการรวบรวมข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ก่อนที่จะพิจารณาเรื่องการปรับวงเงินต่อไป" รายงานการประชุมเฟดระบุสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2553 คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศแผนการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อลดอัตราว่างงานและสร้างเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวทำให้สหรัฐถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 25 - 26 ม.ค.2554