ปลัดคลังคาดปี 54 ศก.โต 4.5% หากการเมืองนิ่งเชื่อการลงทุนรัฐ-เอกชนไปต่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 11, 2011 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถา"แนวโน้มเศรษฐกิจปี 54 และความท้าทายทางธุรกิจ"ว่า ในปี 54 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 4.5% จากปี 53 ที่เศรษฐกิจขยายตัว 8% โดยเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องจากการดำเนินนโยบายของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งทุกคนคาดหวังให้ปัจจัยต่างๆเดินหน้าต่อไปได้ ภายใต้ปัจจัยการเมืองสงบ เพื่อให้ภาครัฐและเอกขนได้เดินหน้าการลงทุน หลังจากที่การลงทุนได้หยุดนิ่งไปหลายปี

การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 53 มาจากอุปสงค์ในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และมีการลดการพึ่งพาการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งยังต้องเดินหน้าดำเนินการต่อไป

ขณะที่ในปี 54 การดำเนินนโยบายภาครัฐจะต้องสร้างความชัดเจน เพื่อให้ภาคเอกชนวางแผนการลงทุนในระยะข้างหน้า เพื่อเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจทดแทนรัฐบาล จึงวางเป้าหมายใน 4 ด้านหลัก คือการจัดทำงบสมดุล ใน 5 ปี หรือภายในปี 58 เป็นการสร้างวินัยการเงินการคลังเพื่อให้ต่างประเทศมีความมั่นใจ และสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินนโบบายของรัฐบาล โดยจะมีการปรับเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล ลดค่าใช้จ่ายให้เติบโตช้าลง ขณะที่การลงทุนของรัฐบาลจะมีการผลักดันให้มีการเกิดการใช้งบประมาณให้ชัดเจน เกิดการลงทุนที่แท้จริง

นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง ซึ่งปัจจุบันมีคณะกรรมการโลจิสติกส์ที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะกรรมการร่วมลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน (PPP)

และยังมีการเตรียมการเรื่อง Trade flow ของระบบศุลการกร เพื่อลดขั้นตอนเกี่ยวกับสินค้าผ่านแดน เพราะตลาดข้างหน้าจะไม่ใช่ ตลาด 65 ล้านคน แต่จะมองเป็นตลาด 590 ล้านคน นอกจากนี้จะมีการปรับโครงสร้างภาษีในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน จะมีนโยบายการกระจายรายได้และสร้างความเท่าเทียมในสังคม มีการพัฒนาในส่วนธุรกิจเอสเอ็มอี และวางพื้นฐานระบบสวัสดิการสังคม

อย่างไรก็ตาม ในปี 54 ยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นตามราคาอาหาร วัตถุดิบและน้ำมันที่ยังคงสูงขึ้น รวมทั้งแนวโน้มเงินบาทยังคงแข็งค่า เนื่องจากยังมีเงินไหลเข้าจากมาตรการ QE รวมทั้ง ปัญหาอุทกภัยและภัยธรรมชาติ ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลสูญเสียงบประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ยังปัญหา และปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งหากการเมืองนิ่งจะทำให้เดินหน้าสร้างประเทศต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ