จีนประกาศขึ้นเพดานกันสำรองธนาคารเป็นครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยผ่านทางเว็บไซต์ว่า ธนาคารกลางจีนจะขึ้นเพดานกันสำรองอีก 0.50% ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.เป็นต้นไป หลังจากที่ขึ้นเพดานกันสำรองแล้ว อัตราเพดานกันสำรองของธนาคารรายใหญ่ของจีนจะอยู่ที่ 19% ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงเป็นประวัติการณ์สำหรับสถาบันการเงินของประเทศ
-- บริษัท ไชน่า ยูเนียน จำกัด เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ยอดการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตของจีนพุ่งขึ้น 46% แตะ 11.2 ล้านล้านหยวน หรือ 1.67 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2553 จากระดับปี 2552
บริษัทไชน่า ยูเนียน เพย์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการโอนเงินและการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตระหว่างธนาคารของจีน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายขอบเขตบริการบัตรเครดิตสู่เมืองขนาดกลางและขนาดเล็กของจีน รวมทั้งพื้นที่ในชนบทในปี 2553
-- เจ้าหน้าที่อาวุโสของธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนจะเพิ่มความยืดหยุ่นของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน และจะผลักดันต่อไปให้มีการเปิดเสรีตลาดเงิน
นายหลี่ ตงหนง ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวในที่ประชุมว่า จีนจะยังคงปฏิรูปกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนต่อไป และจะดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนหยวนมีเสถียรภาพโดยพื้นฐานในระดับที่สมเหตุสมผลและมีสมดุล
-- หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลธนาคารจีนกำลังพิจารณาเรื่องการใช้มาตรการต่างๆเพื่อลดความเสี่ยงของเงินกู้ที่ให้กับวิสาหกิจขนาดเล็กและภาคชนบท
มาตรการดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Capital Adequacy Ratio: CAR) สำหรับธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น และลดแรงกดดันด้านการรีไฟแนนซ์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน