สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ไปจนถึงกลางปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,333.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,324.30 - 1,339.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 32.3 เซนต์ ปิดที่ 27.128 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.1 เซนต์ ปิดที่ 4.267 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 9.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,796.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 19.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 804.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 ตามแผนการที่วางไว้
เทรดเดอร์ในตลาดทองคำว่า แม้ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำซบเซาลงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่นักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มในช่วงขาขึ้น และคาดว่านักลงทุนจะเพิ่มการถือครองทองคำเมื่อเห็นว่าราคาปรับตัวลงสู่ระดับที่สามารถยอมรับได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาทองคำร่วงลงไปแล้ว 6% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยรวม 30% ในปี 2553 ขณะที่เทรดเดอร์เชื่อมั่นว่า ปัจจัยต่างๆที่เคยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าถือครองทองคำในปี 2553 นั้น จะยังคงเป็นปัจจัยเดียวกันกับในปีนี้ด้วย ซึ่งรวมถึงความวิตกกังวลเรื่องความอ่อนแอของค่าเงินและปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป