เวย์น สวอน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในออสเตรเลียจะขยายตัว 0.25% ในไตรมาสซึ่งสิ้นสุดเดือนมีนาคม อันเป็นผลมาจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศ
ฝนที่ตกหนักเกือบ 2 เดือนในรัฐควีนส์แลนด์ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ได้คร่าชีวิตประชาชนไป 32 คน และสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนกว่า 30,000 หลัง ขณะเดียวกันยังทำให้ต้องมีการปิดเหมือง ทางรถไฟ และสร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตร นอกจากนั้นน้ำฝนที่ไหลลงใต้ยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่หนึ่งในสี่ของรัฐวิคตอเรียรวมถึงหลายเมืองในนิวเซาท์เวลส์ด้วย
อุทกภัยได้สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 4.95 พันล้านดอลลาร์ และจะทำให้เศรษฐกิจของรัฐควีนส์แลนด์ขยายตัวน้อยลงในปีนี้ ส่วนในภาพรวมนั้น รมว.คลังกล่าวว่าอุทกภัยได้ทำลายภาคการเกษตรในพื้นที่สำคัญของประเทศ ซึ่งหมายความว่าราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ
"อุทกภัยมีแนวโน้มว่าจะทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ขยายตัวประมาณ 0.25% ในไตรมาสซึ่งสิ้นสุดเดือนมีนาคม" เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอพี "สำหรับราคาผักผลไม้คงสูงขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง"กระทรวงการคลังประมาณการว่าความเสียหายในภาคการเกษตรน่าจะอยู่ที่ราว 990 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนั้นทางกระทรวงยังประมาณการว่าภัยธรรมชาติครั้งนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลียลดลงราว 0.5% ในปีงบประมาณ 2553/54 โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะผลผลิตถ่านหินและการส่งออกที่ลดลง โดยคาดว่าอุตสาหกรรมถ่านหินได้รับความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์
เขากล่าวว่าอีกภาคส่วนที่จะได้รับผลกระทบหนักคืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยคาดว่าได้รับความเสียหายราว 297 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ภาคส่วนอื่นนอกเหนือจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม คาดว่าจะได้รับความเสียหายราว 500 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะขึ้นดอกเบี้ยในเร็ววันนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ สำนักข่าวซินหัวรายงาน