เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) บางส่วนกล่าวว่า วิกฤตหนี้สินและมาตรการรัดเข็มขัดในประเทศยุโรปเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากขึ้น
รายงานหลังการประชุมบีโอเจระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค.ที่ผ่านมาระบุว่า ในขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มแผ่วลง มีเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของบีโอเจที่ยังกังวลว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในยุโรปซึ่งมีผลอย่างมากต่ออัตราดอกเบี้ยในระยะยาว รวมถึงมาตรการประหยัดงบประมาณการคลังจะเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจของญี่ปุ่น"
สมาชิกบีโอเจหลายรายกล่าวว่า "ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีอยู่" พร้อมระบุว่า ผลสำรวจรายไตรมาสของธนาคารกลางที่เผยแพร่ในเดือนธ.ค.บ่งชี้ว่า สถานการณ์ในภาคธุรกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรปนั้น สมาชิกบีโอเจส่วนใหญ่รู้สึกว่า การประหยัดงบด้านการคลังและความไร้เสถียรภาพอย่างต่อเนื่องในตลาดเงินอาจเป็นปัจจัยที่รั้งให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจต้องใช้เวลานานออกไปอีก
นอกจากนี้ รายงานหลังการประชุมยังระบุถึงมุมมองที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยมีสมาชิก 2-3 รายกล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลายลง ขณะที่สมาชิกอีกส่วนกล่าวว่ามุมมองในแง่บวกจะค่อยๆ ลดลงไปในที่สุด
"อัตราดอกเบี้ยในระยะยาวจะปรับตัวลงและในสถานการณ์เช่นนี้เงินเยนจะยังแข็งค่าขึ้นในตลาดปริวรรตเงินตราซึ่งสร้างแรงกดดันให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเผชิญช่วงขาลง" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน