นายหวัง ซีเจียง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไปของสำนักงานจัดการพลังงานแห่งชาติ (NEA) กล่าวในการแถลงข่าวเรื่องสถานการณ์พลังงานในจีนประจำไตรมาส 4 ของปี 2553 ว่า รัฐบาลจะกระตุ้นการผลิตพลังงานและควบคุมการบริโภค
อย่างไรก็ตาม นายหวังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายการควบคุมปริมาณการใช้พลังงาน
ปริมาณถ่านหินจะปรับตัวดีขึ้นจากโครงการก่อสร้างฐานการผลิตถ่านหินขนาดใหญ่ 14 แห่ง และแผนเพิ่มการส่งออก
โดยในปี 2553 จีนมียอดนำเข้าถ่านหินสุทธิรวมทั้งสิ้น 146 ล้านตัน ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มอีก 80 ล้านกิโลวัตต์ในปี 2554 แตะที่ 1.04 พันล้านกิโลวัตต์
-- นายหวัง ซีเจียง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไปของสำนักงานจัดการพลังงานแห่งชาติ (NEA) กล่าวเมื่อวันที่ 28 มกราคมว่า ปริมาณการใช้พลังงานของจีนมีแนวโน้มขยายตัวช้าลงในปีนี้
นายหวังแสดงความเห็นในรายงานข่าวประชาสัมพันธ์ของ NEA ประจำไตรมาส 4 ปี 2553 โดยระบุว่า ปริมาณการใช้ถ่านหิน ไฟฟ้า และน้ำมันจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2554 ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียนจะแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ปริมาณการใช้ถ่านหินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยขณะที่ปริมาณการผลิตยังมีเพียงพอตลอดทั้งปี โดยราคาถ่านหินจะยังคงอยู่ในระดับสูงเหมือนช่วงสิ้นปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็นแผ่ปกคลุมในหลายพื้นที่จนส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก
สำหรับตัวเลขคาดการณ์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในปี 2554 อยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านกิโลวัตต์ เพิ่มขึ้น 9% จากปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าปรับตัวลดลงจากมาตรการประหยัดพลังงาน
-- นายหวัง ซีเจียง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไปของสำนักงานจัดการพลังงานแห่งชาติ (NEA) กล่าวเมื่อวันที่ 28 มกราคมว่า พลังงานใหม่และพลังงานหมุนเวียนของจีนจะปูทางไปสู่ขั้นตอนของการพัฒนาครั้งใหม่ในปี 2554 ในขณะที่จีนเริ่มเดินหน้าแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่ทางกลยุทธ์ใน 7 ภาคอุตสาหกรรม
นายหวังกล่าวว่า จีนอาจเริ่มก่อสร้างโรงงานพลังงานน้ำขนาด 20 ล้านเมกกะวัตต์ในปี 2554 ซึ่งจะทำให้ยอดการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 220 ล้านกิโลวัตต์
กำลังการผลิตที่โรงงานนิวเคลียร์ของจีนจะพุ่งขึ้นแต่ 11.74 ล้านกิโลวัตต์ในปี 2554
นอกจากนี้ จีนจะเพิ่มการติดตั้งกังหันลม 14 ล้านกิโลวัตต์ในปี 2554 และสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 500,000 กิโลวัตต์ในปี 2554 ด้วย