ผลการสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของออสเตรเลียซึ่งจัดทำโดยเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ (NAB) พบว่า ภาคธุรกิจในออสเตรเลียมีความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างมากในเดือนมกราคม ปี 2554 เนื่องจากเหตุน้ำท่วมในรัฐควีนส์แลนด์และรัฐวิคตอเรีย
โดยผลการสำรวจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจลดลงสุ่ระดับ -6 จุดในเดือนมกราคม เมื่อเทียบกับ +6 จุดในเดือนธันวาคม ซึ่งความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ภาวะวิกฤติการเงินโลกที่ผ่านมาในเดือนมกราคม เนื่องจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ การก่อสร้างโรงงาน และ การเงิน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ทั้งนี้ การสำรวจของ NAB ระบุว่า "ภาวะน้ำท่วม" ส่งผลให้ผลิตภัณพ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ลดลง 1.8% ในไตรมาสแรกก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล
การสำรวจภาวะน้ำท่วมซึ่งจัดทำขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมบ่งชี้ว่า รายได้ของบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ลดลง 5.1% เนื่องจากผลกระทบจากน้ำท่วม โดยรัฐควีนส์แลนด์ได้รับผลกระทบหนักสุด ซึ่งรายได้ของภาคธุรกิจลดลงถึง 9.8% ในเดือนมกราคม ในขณะที่รายได้ภาคธุรกิจในรัฐอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมเช่นกัน โดยรัฐนิวเซาธ์เวลส์และรัฐวิคตอเรียมีรายได้ลดลง 4%
รายงานระบุว่า ราว 22% ของบริษัทที่ตอบคำถามระบุว่าต้องดำเนินกิจการในอัตราที่ต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดภาวะน้ำท่วมเป็นระยะเวลา 1 เดือนหรือมากกว่า
ทั้งนี้ การสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นก่อนที่พายุไซโคลนยาซีจะพัดถล่มรัฐควีนส์แลนด์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน