บริษัท NYSE Euronext ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นนิวยอร์ก และบริษัท Deutsche Boerse ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นเยอรมนี ประกาศว่า ทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการควบรวมกิจการ เพื่อก่อตั้งบริษัทบริหารตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แถลงการณ์ร่วมของทั้งสองบริษัทระบุว่า ธุรกรรมการควบรวมกิจการในครั้งนี้ได้มีการวางโครงสร้างให้ผนวกกิจการ Deutsche Boerse และ NYSE Euronext เข้าด้วยกัน ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการนำหุ้นของบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ต, นิวยอร์ก และปารีส โดย Deutsche Boerse จะแลกเปลี่ยนหุ้นของบริษัทกับหุ้นของบริษัทใหม่ในสัดส่วน 1 ต่อ 1 ขณะที่ NYSE Euronext จะแลกเปลี่ยนหุ้นของบริษัทกับหุ้นของบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ในอัตราส่วน 1 ต่อ 0.4700
เมื่อมีการดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ ผู้ถือหุ้นของ Deutsche Boerse จะถือหุ้น 60% และผู้ถือหุ้นของ NYSE Euronext จะถือหุ้น 40% ของบริษัทร่วมทุน
บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในทั้งในรัฐนิวยอร์กและแฟรงค์เฟิร์ต จะมีรายรับสุทธิรวมกัน 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2553 และมีกำไร 2.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2553 ซึ่งจะทำให้บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้ กลายเป็นบริษัทบริหารตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากรายรับและกำไร
ดันแคน นีเดอร์เราเออร์ ประธานบริหารของ NYSE Euronext กล่าวว่า ธุรกรรมในครั้งนี้จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนาของตลาดทุนทั่วโลก ที่จะให้การบริการเชิงนวัตกรรมที่ดีที่สุดและโปร่งใสที่สุดสำหรับลูกค้าและบริษัทต่างๆ
ขณะที่ เรโต ฟรังชิโอนี ประธานบริหารบริษัท Deutsche Boerse กล่าวว่า ธุรกรรมในครั้งนี้จะเป็นการรวมตลาดหุ้น 2 แห่งที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เพื่อเป็นผู้นำในตลาดทุนโลกและจะกำหนดมาตรฐานการเติบโต, คุณภาพ และการเข้าถึงตลาด สำนักข่าวซินหัวรายงาน