ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.นี้เป็นต้นไป
การเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ครั้งล่าสุด ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่ที่เริ่มขึ้นเพดานกันสำรองในปีที่แล้วนั้นมีเป้าหมายที่จะควบคุมสภาพคล่องและภาวะเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ การขึ้นเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์จะทำให้ธนาคารรายใหญ่จำเป็นต้องกันสำรองไว้ 19.5% ส่วนธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กจะต้องกันสำรองเงินฝากไว้ 16%
-- คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ประกาศเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จีนปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลอีก 350 หยวน (ประมาณ 53.2 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตัน โดยมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป
NDRC ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า การปรับราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในปีนี้ แต่เป็นครั้งที่สองในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซีนเพิ่มขึ้น 0.26 หยวนต่อลิตร และดีเซลเพิ่มขึ้น 0.3 หยวนต่อลิตร
--นายหยี กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนและเป็นหัวหน้าสำนักงานปริวรรตเงินตราของจีนกล่าวว่า จีนจะหาทางสร้างความสมดุลของการชำระเงินระหว่างประเทศด้วยการกระตุ้นการนำเข้าแทนที่จะลดการส่งออก
โดยกระแสเงินทุนไหลเข้าระหว่างประเทศของจีนสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานด้านการพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ
ทั้งนี้ จีนมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิที่ 3.00 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2545 - 2553 และมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิที่ประมาณ 4.00 แสล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2537 - 2545
สำหรับกระแสเงินทุนไหลเข้าต่อปีโดยเฉลี่ยของจีนพุ่งแตะที่ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
-- รายงานจากหนังสือพิมพ์ซีเคียวริตีส์ ไทม์ ระบุโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้เตรียมที่จะอนุญาตให้ชาวเซี่ยงไฮ้เข้าร่วมโครงการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศในไตรมาส 2 ของปีนี้
รายงานระบุว่า เซี่ยงไฮ้จะกลายเป็นเมืองที่สองที่นำร่องโครงการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศต่อจากเมืองเหวินโจว
ทั้งนี้ เมืองเหวินโจวได้เริ่มนำร่องโครงการดังกล่าวไปเมื่อเดือนมกราคมปีนี้