นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) กล่าวว่า ราคายางที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ เกิดจากความตื่นตกใจจากกรณีที่โรงงานผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นปิดตัวลงหลังจากเกิดเหตุภัยพิบัติ จึงเชื่อว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นขั่วคราว และมองว่าราคายางที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 100-120 บาท/ก.ก.
อย่างไรก็ตาม การที่ราคายางเคยขึ้นไปสูงถึง 180 บาท/ก.ก.อย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ จากระดับ 100 บาท/ก.ก. เนื่องจากมีการเก็งกำไรมากจากคาดการณ์ที่ว่าจีนจะมีความต้องการยางสูง ทั้งที่ วามต้องการหรืออุปสงค์ในปีนี้ใกล้เคียงกับอุปทานที่ประมาณ 10.9 ล้านตัน
"เชื่อว่าเป็นเรื่องชั่วคราว คนตกใจที่โรงงานในญี่ปุ่นปิดตัวลง ซึ่งราคาก่อนหน้านี้ขึ้นไปสูงผิดปกติ...คิดว่าราคายางที่เหมาะสมอยู่ที่ 100-120 บาท/กก. "นายมนตรี กล่าวอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเมื่อเข้าสู่หน้าฝนในพื้นที่ภาคใต้ของไทยจะไม่สามารถกรีดยางได้ ผลผลิตจะออกสู่ตลาดน้อยลง ขณะที่การฟื้นตัวของญี่ปุ่นคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีน อินเดีย และรัสเซีย มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง น่าจะทำให้ราคายางทรงตัวในระดับสูงต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าความต้องการยางพาราถึงปี 63 จะเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านตัน โดยไทยเป็นผู้ผลิตสูงสุด ในปีก่อนผลิตได้ 3.3 ล้านตัน รองลงมาเป็นอินโดนีเซีย 2.5 ล้านตัน และ มาเลเซีย 9 แสน-1 ล้านตัน โดยทั้ง 3 ประเทศมีผลผลิตรวมกันคิดเป็น 70% ของการผลิตทั้งโลก