สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดทองคำร่วงลงด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,419.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,410.10-1,430.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.9 เซนต์ ปิดที่ 37.088 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 6.9 เซนต์ ปิดที่ 4.35 ดอลลาร์/ปอนด์
ขณะที่สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,747.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 4.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 745.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งบ่งชี้ว่าชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นและเริ่มที่จะนำเงินออมออกมาจับจ่ายใช้สอย
ขณะที่ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.1% เป็น 90.8 จุด ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.0%
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในลิเบีย โดยมีรายงานว่ากลุ่มกบฏลิเบียสามารถยึดคืนฐานที่มั่นในเมืองราส ลานอฟและเมืองเบรกาได้แล้ว หลังจากกองกำลังชาติพันธมิตรได้เข้าโจมตีทางอากาศในลิเบีย