นีลเส็นเผยผู้บริโภคอินโดฯเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าหลังศก.ประเทศฟื้นตัวแข็งแกร่ง

นีลเส็น คอมพานี บริษัทชั้นนำของโลกด้านการนำเสนอข้อมูล การวิจัยตลาด และการวิเคราะห์ ระบุว่า ผู้บริโภคอินโดนีเซียเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการซื้อสินค้า หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศได้ฟื้นตัวจากวิกฤติการเงินโลกในช่วงปี 2551-2552 และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 6.1% จากปี 2552

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าวยังเป็นผลมาจากรายให้ได้ต่อหัวประชากรของอินโดนีเซียที่เพิ่มสูงขึ้นแตะ 3,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลของ IMF World Fact Book

นายเวนู แมดแฮฟ ผู้อำนวยการบริหารฝ่าย Client Leadership ของนีลเส็น อินโดนีเซีย กล่าวว่า "เราสามารถคาดการณ์ถึงการเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากรายได้ต่อหัวของประชากรที่ 3,000 ดอลลาร์นั้น สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่รวดเร็วเช่นเดียวกับในจีนและเกาหลีใต้ นอกจากนี้ เรายังสามารถคาดการณ์ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในทุกภาคอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ สุขภาพ การประกัน การท่องเที่ยว และสินค้าคงทน เป็นต้น" นายแมดแฮฟกล่าว

นายแมดแฮฟระบุว่า การบริโภคสินค้าทั่วไปไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับชนชั้นสูงซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์ที่ให้ประโยชน์และมูลค่าเพิ่มมากกว่า

"ในยุคใหม่นี้ ผู้บริโภคชั้นสูงให้ความสำคัญกับมูลค่า โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองและตรงกับความต้องการด้านสุขภาพ" เขากล่าว ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคชั้นกลางและชั้นล่างก็เริ่มซื้อผลิตภัณฑ์ที่เคยถือว่าเป็นสินค้าพรีเมี่ยม

นอกจากนี้ เขากล่าวเสริมว่า การเติบโตของสินค้าประเภทต่างๆเหล่านี้ยังได้รับแรงผลักดันจากกิจกรรมอื่นๆ ของผู้ผลิต เช่น การเพิ่มช่องทางการขายมากขึ้น และการเพิ่มการโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน