เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เผยธุรกิจประกันภัยช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.พ.54) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.60 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพบแนวโน้มประชาชนสนใจทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคลมากขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง
"จากสถิติธุรกิจประกันภัยของเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2554 พบว่าธุรกิจประกันภัยโตร้อยละ 12.60 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 70,671 ล้านบาท เป็นของธุรกิจประกันชีวิตจำนวน 47,665 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12 และเป็นของธุรกิจประกันวินาศภัยจำนวน 23,006 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.85" นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คปภ.กล่าว
ทั้งนี้ เป็นผลมาจาก คปภ.มีแผนเชิงรุกกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ทำให้การประกันภัยเข้าถึงประชาชนได้ทุกระดับทั่วประเทศ ประกอบกับมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
โดยช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.54 ธุรกิจประกันภัยมีจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยรวมทั้งสิ้น 23,374,514 ราย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.43 คิดเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยทั้งสิ้น 24,613,820 บาท แบ่งเป็น กรมธรรม์ประกันภัย 6,474,443 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.31 โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 17,637,749 ล้านบาท
และหากไม่รวมการประกันภัยรถภาคบังคับจะพบว่า ประชาชนตื่นตัวทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลสูงสุดจำนวน 993,086 ราย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.53 การประกันภัยสุขภาพจำนวน 133,844 ราย ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 139.81 แสดงให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจและรักสุขภาพตัวเองมากขึ้น
สำหรับธุรกิจประกันชีวิตมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้งสิ้นจำนวน 16,900,071 ราย ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.87 คิดเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยทั้งสิ้น 6,976,070 ล้านบาท โดยมีกรมธรรม์ประกันชีวิตรายใหม่จำนวน 874,884 ราย ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.01 คิดเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 649,215 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.67 แบ่งเป็น กรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคล 453,314 ราย คิดเป็นร้อยละ 51.81 ของผู้ทำประกันภัยรายใหม่
"จากสถิติพบกว่าการขยายตัวของธุรกิจประกันชีวิตโตขึ้นในอัตราส่วนที่ลดลงเป็นผลมาจากกรมธรรม์ครบกำหนดสัญญา มีการเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบกำหนด รวมถึงการยกเลิกหรือกรมธรรม์ขาดอายุ" นางจันทรา กล่าว
เลขาธิการ คปภ.กล่าวว่า ประชาชนไม่ควรเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัยก่อนครบกำหนดสัญญา เนื่องจากการขอเวนคืนกรมธรรม์จะได้รับเงินน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่ได้จ่ายไป และจำนวนเงินที่ได้รับจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัย ที่สำคัญก่อนจะซื้อประกันภัยทุกครั้ง ผู้ซื้อควรขอดูใบอนุญาตจากตัวแทนและนายหน้าที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเท่านั้น และเก็บใบเสร็จเป็นหลักฐานเพื่อประโยชน์กับตัวท่านเอง นอกจากนี้ขอให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการทำประกันภัย ทั้งการประกันชีวิตและการประกันวินาศภัย และหันมาใส่ใจกับตนเองให้มากขึ้น ไม่ควรประมาทกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นอุบัติภัย หรือภัยธรรมชาติ เพราะหากได้ทำประกันภัยไว้การประกันภัยสามารถช่วยแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนได้