สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนเม.ย. ร่วงลงแตะระดับ 52.9 จากระดับ 53.4 ในเดือนมี.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว และดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะหดตัว ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 26 ติดต่อกันที่ดัชนี PMI เคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและซบเซา (boom-bust cycles) โดยดัชนี PMI อยู่ที่ระดับ 52.2 ในเดือนก.พ. และ 52.9 ในเดือนม.ค.
CFLP ระบุในแถลงการณ์ว่า การร่วงลงของดัชนีในเดือนเม.ย.บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของจีนกำลังเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่กำหนดโดยนโยบายควบคุมเศรษฐกิจมหภาคของรัฐบาลจีน
ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลข PMI ที่ร่วงลงดังกล่าวสอดคล้องกับการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัว และอาจเพิ่มความเป็นไปได้ที่ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศชะลอตัว
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือนที่ 5.4% ในเดือนมี.ค. จากปีก่อน โดยเงินเฟ้อจากการนำเข้ามีส่วนอย่างมากที่ทำให้ราคาในประเทศพุ่งขึ้น
เพื่อเป็นการจัดการกับสภาพคล่องส่วนเกินที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อ ธนาคารกลางจีนจึงได้ขึ้นสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ถึง 9 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว และเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีนี้ และเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ต้นปี 2553