ผลการสำรวจล่าสุดของเวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม พบว่า การลงทุนพัฒนาพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกมีมูลค่าทั้งสิ้น 2.43 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2553 ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนหน้า
มูลค่าดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 4.5 เท่าจากจำนวน 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2547 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าพลังงานหมุนเวียนเป็นภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจและความพยายามในการลดโลกร้อน
ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตินิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามึเมื่อวันที่ 11 มีนาคม การลงทุนในด้านพลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น โดยประเทศในยุโรป เช่น เยอรมนี ได้ลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น
เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ และเป็นที่รู้จักในฐานะเวทีการประชุมผู้นำโลกประจำปีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ประเมินว่า ต้องมีการลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2563 เพื่อลดภาวะโลกร้อนโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ
รายงาน Green Investing 2011 ไม่ได้แสดงตัวเลขการลงทุนของญี่ปุ่น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงในการลงทุนทั้งหมดของโลก แต่ระบุว่า กิจการไฟฟ้า 10 แห่งของญี่ปุ่นมีการดำเนินการค่อนข้างช้าในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานสะอาด
ทั้งนี้ เงินลงทุนจำนวน 1.278 แสนล้านดอลลาร์จากยอดเงินลงทุนทั้งหมด 2.43 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2553 นั้น ถูกใช้ไปกับการลงทุนโครงการกำเนิดพลังงานขนาดใหญ่ เช่น ทุ่งกังหันลม และ อุทยานพลังแสงอาทิตย์ และหากแยกเป็นประเทศ พบว่า จีนใช้งบลงทุนสูงสุดที่ 4.73 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 37% ของจำนวนทั้งหมด
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวระบุว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าต้นทุนการผลิตพลังงานสะอาดจะถูกลง และแผนพัฒนา 5 ปี นับจากปี 2554 ของจีน ได้กำหนดให้มีการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าพลังลมและพลังแสงอาทิตย์มากขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน