นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐจะขยับขึ้นเพียง 0.5% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราส่วนที่น้อยที่สุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นทำให้ชาวสหรัฐลดการใช้จ่าย
นอกจากนี้ คาดว่านักวิเคราะห์คาดว่า รายได้ของชาวอเมริกันจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งแม้ว่าจะปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 แต่ก็ยังน้อยว่าเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.5%
ราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นอย่างมากนั้น กำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐ โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) เปิดเผยว่า ราคาเชื้อเพลิงเบนซินโดยเฉลี่ยในเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 3.81 ดอลลาร์/แกลลอน จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 3.54 ดอลลาร์/แกลลอน
การพุ่งขึ้นของราคาเชื้อเพลิงและการลดการใช้จ่ายของผู้บริโภคส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวเพียง 1.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และต่ำกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่สามารถขยายตัวได้ดีถึง 3.1%