พณ.ปรับเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาดใหม่ ยอดขาย 500 ลบ./ปีจ่อเข้าข่ายผูกขาด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 2, 2011 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุรุทธิ์ โค้วคาสัย ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องการกำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้กำหนดเกณฑ์ผู้มีอำนาจเหนือตลาด ตามมาตรา 25 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 เป็นเกณฑ์เดียวที่ใช้กับทุกธุรกิจ โดยกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าเกณฑ์ต้องมียอดขายตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท เพื่อให้ดูแลการผูกขาดได้ง่ายขึ้น

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอร่างเกณฑ์ดังกล่าวเสนอต่อนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าพิจารณา จากนั้นจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ ยังกำหนดเกณฑ์ส่วนแบ่งตลาดเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดตั้งแต่ 50% ขึ้นไปของตลาดรวม, ระดับที่ 2 มีส่วนแบ่งการตลาดตั้งแต่ 30% ขึ้นไป และระดับที่ 3 มีส่วนแบ่งตลาด 3 รายรวมกันตั้งแต่ 75% ขึ้นไป อย่างไรก็ดี ได้กำหนดเกณฑ์ยกเว้นสำหรับผู้ประกอบธุรกิจรายใดรายหนึ่งที่มีส่วนแบ่งตลาดในปีที่ผ่านมาต่ำกว่า 10% หรือยอดขายต่ำกว่า 500 ล้านบาท

นายอนุรุทธิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าว เพราะปัจจุบันกฎหมายแข่งขันทางการค้าของไทยไม่สามารถเอาผิดกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ผูกขาดธุรกิจหรือใช้อำนาจเหนือตลาดทำให้ธุรกิจคู่แข่งเสียหายได้ ดังนั้นจึงต้องปรับปรุงใหม่ เพื่อให้การกำกับดูแลธุรกิจที่เข้าข่ายมีอำนาจเหนือตลาดทำได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ หากเกณฑ์ดังกล่าวได้รับการเห็นชอบ จะทำให้กลุ่มธุรกิจบางประเภทเข้าข่ายการเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด เช่น น้ำมันดีเซล, เบียร์, ปุ๋ยเคมี, แผ่นเหล็กเคลือบดีบุก, นมถั่วเหลือง, ปลากระป๋องในซอส, เม็ดพลาสติกพีอี, ยางรถยนต์ และเยื่อกระดาษ เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ