สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลจ้างงานที่น่าผิดหวังของสหรัฐในเดือนพ.ค.ได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกระตุ้นความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,542.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,520.40-1,545.50 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ขยับลง 1.1 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 36.191 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 4.1345 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,823.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 15 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 785.40 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเพียง 54,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 และชะลอตัวจากที่เพิ่มขึ้น 232,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวสูงขึ้นแตะ 9.1% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 9% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่น่าผิดหวังของสหรัฐทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดทองคำ
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังกดดันให้เงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ซึ่งเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่น
ขณะที่ สัญญาทองแดงก็ได้รับปัจจัยหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเช่นกัน รวมถึงได้รับแรงซื้อจากจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อทองแดงรายใหญ่สุดของโลก อันเนื่องมาจากความต้องการที่ดีดตัวสูงขึ้น หลังสต็อกทองแดงปรับตัวลดลง