สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปและเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในกรีซได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พื้นฐานเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าสหรัฐยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,526.2 ดอลลาร์/ออนซ์ $1,514.50-$1,533.70
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 0.1 เซนต์ ปิดที่ 35.410 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 3.3 เซนต์ ปิดที่ 4.122 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ดิ่งลง 20.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,774.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 16.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 776.00 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กกล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในยุโรปเกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งใหม่นั้น ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนอย่างมาก และเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกจากกรีซจะเผชิญกับปัญหาหนี้แล้ว สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศยังคงอยู่ในภาวะที่ไม่สงบ โดยพรรคฝ่ายค้านของกรีซได้เรียกร้องให้นายจอร์จ ปาปันเดรอู ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อปูทางสู่การจัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่ชาวกรีซหลายพันคนได้ออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งบ่งชี้ว่าสหรัฐยังคงเผชิญกับสถานการณ์เงินฟ้อ