นายณรงศักดิ์ กำมเลศ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า ใน 2 ปีข้างหน้าจะมีปริมาณไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่ระบบของ กฟภ.ไม่ต่ำกว่า 600 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีบริษัทเอกชนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และขายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้วประมาณ 400 เมกะวัตต์ โดยได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ.รวม 3,000 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ แม้ขณะนี้อัตราการสนับสนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อค่าไฟฟ้า (Adder) ที่ภาครัฐให้มีอัตราลดลงเหลือ 6.50 บาทต่อหน่วย ทำให้ภาคเอกชนชะลอการลงทุนช่วงที่ผ่านมา แต่แนวโน้มภายใน 3 -5 ปีเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะปรับลดลงไปอยู่ที่ระดับ 50 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ เนื่องจากทิศทางต้นทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าประเภทนี้มีราคาลดลง ส่งผลให้ภาคเอกชนไทยหันมาสนใจการลงทุนเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น
ด้านนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายไฟฟ้า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ทิศทางของอัตราการสนับสนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อค่าไฟฟ้าในรูปแบบใหม่ จะเป็นการเสนออัตราการสนับสนุนรูปแบบใหม่ที่เรียกว่าระบบ Feed In Tariff สำหรับไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยจะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้รัฐบาลใหม่พิจารณาเห็นชอบเพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป