นักเศรษฐศาสตร์คาดจีนอาจเดินหน้านโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อ

นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสคาดจีนจะยังคงใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ แต่ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจีนจะดิ่งลงอย่างรุนแรงนั้นมีอยู่เล็กน้อย

ไชน่า เดลี่ รายงานอ้างคำกล่าวของนายเผิง เหวินเฉิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ China International Capital Corp (CICC) ที่ระบุว่า แม้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มชะลอตัว แต่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้บ่งชี้ว่า จีนจะยังใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดในระยะสั้น

ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะ 5.5% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน และอยู่สูงกว่าเพดานที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 4%

นายเผิงคาดว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหรือ 2 ครั้งในปีนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ภาคการผลิตของประเทศขยายตัวช้าสุดในรอบ 28 เดือนในเดือนมิถุนายน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลง 1.1% ต่อปีแตะที่ 50.9%

โดยดัชนี PMI ที่อยู่ต่ำเกินคาดได้สร้างความวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญความเป็นไปได้มากขึ้นว่าจะเผชิญภาวะดิ่งลงอย่างรุนแรง หรือ hard landing หากนโยบายการเงินยังคงเข้มงวด

อย่างไรก็ดี นายเผิงกล่าวว่า ความเสี่ยงของภาวะฮาร์ดแลนดิ้งนั้นมีอยู่เล็กน้อย เนื่องจากกระบวนการสร้างความทันสมัยและสร้างความเป็นเมืองในขณะนี้จะยังคงกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปอีกอย่างน้อย 3 - 5 ปีข้างหน้า พร้อมกับเสริมว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่จะร่วงลงอย่างรุนแรงในครั้งเดียว

เขาคาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวแตะ 8.4% ในไตรมาส 4 แต่อัตราการขยายตัวจะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 9.2% ตลอดทั้งปีนี้