สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซ ยังกระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 30.10 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,512.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.705 ดอลลาร์ ปิดที่ 35.410 ดอลลาร์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 4.5 เซนต์ ปิดที่ 4.3475 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 25.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,742.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 18.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 775.65 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อสัญญาทองคำอย่างคับคั่ง หลังจากสัญญาดิ่งลงอย่างหนักในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ วิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซและประเทศอื่นๆของยุโรป ยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อปกป้องกันความเสี่ยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตือนว่า กรีซอาจจะเข้าข่ายประเทศที่มีการ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" หากผู้นำยุโรปโน้มน้าวให้ธนาคารพาณิชย์ของกรีซและประเทศอื่นๆในยุโรปเข้าซื้อพันธบัตรชุดใหม่ของรัฐบาลกรีซเมื่อพันธบัตรชุดเดิมครบกำหนดไถ่ถอน หรือการทำ rollover
ขณะที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงยอมรับพันธบัตรของรัฐบาลกรีซในฐานะหลักประกันการกู้ยืม (collateral) สำหรับเงินกู้ที่ปล่อยให้กับธนาคารพาณิชย์ ตราบใดที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ได้ชี้ชัดว่ากรีซเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปมากขึ้นเมื่อมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรโตเกสลงสู่ "ระดับขยะ" เพราะกังวลว่ารัฐบาลโปรตุเกสจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ และอาจทำให้โปรตุเกสเผชิญกับวิกฤตการคลังจนนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ในวันข้างหน้า