กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 9 เดือน และยังเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 90,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.2% จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 9.1% โดยอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9%
ข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า หน่วยงานของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นของสหรัฐได้ปรับลดการจ้างงานลง 39,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ หน่วยงานของรัฐได้ปรับลดการจ้างงานรวมกันทั้งสิ้น 238,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคเอกชนได้ปรับเพิ่มการจ้างงานในสัดส่วนที่น้อยที่สุดในรอบ 1 ปี
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ขยายตัวน้อยเกินคาดนั้น มาจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น นอกจากนี้ เหตุการณ์แผ่นดินและสึนามิในญี่ปุ่นที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในภาคการผลิตของสหรัฐ ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การจ้างงานในสหรัฐซบเซาลงด้วย
ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์นั้น สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังฟื้นตัวไม่มากพอที่จะหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งได้ โดยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐขยายตัวเพียง 1.8% น้อยกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่สามารถขยายตัวได้ถึง 3.1%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับลดการประเมินตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.และพ.ค. โดยระบุว่าตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 217,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดิมที่ประเมินว่าเพิ่มขึ้น 232,000 ตำแหน่ง และตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดิมที่ประเมินว่าเพิ่มขึ้น 54,000 ตำแหน่ง