คณะกรรมการตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดทำธุรกรรมปริวรรตเงินตราโดยเฉลี่ยต่อวันในกรุงโตเกียวประจำเดือนเมษายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.0% จากปีก่อนหน้านี้แตะที่ 2.846 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งไต่ขึ้นใกล้เคียงกับระดับ 3.025 แสนล้านเยนในเดือนเมษายน 2551 ก่อนเกิดการล่มสลายของวาณิชธนกิจเลห์แมน บราเธอร์ส
ผลสำรวจรายปีที่จัดทำโดยคณะกรรมการฯซึ่งประกอบด้วยธนาคารกลางญี่ปุ่นและสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศระบุว่าการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารขยายตัว 13.0% แตะที่ 2.196 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การทำธุรกรรมกับผู้ส่งออกและลูกค้าธนาคารรายอื่นๆ ลดลง 6.2% สู่ระดับ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ลูกค้าให้เหตุผลถึงการปรับตัวลดลงในการทำธุรกรรมของลูกค้าว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะการร่วงลงของยอดส่งออกจากญี่ปุ่นภายหลังเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา
หากแยกเป็นสกุลเงินแต่ละประเทศพบว่า ปริมาณการทำธุรกรรมระหว่างสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับเงินเยนลดลง 5.3% ส่วนปริมาณการทำธุรกรรมระหว่างสกุลเงินยูโรกับเงินเยนร่วงลง 6.2% แต่การทำธุรกรรมระหว่างเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ เพิ่มขึ้น 28.7% เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายที่คึกคักในสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นทุกๆ เดือนเมษายน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน