สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในขณะที่การเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดาหนี้ของรัฐบาลสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดบวก 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.3% แตะที่ 1,616.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,607.80-1,619.00 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 33.7 เซนต์ ปิดที่ 40.698 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7.15 เซนต์ ปิดที่ 4.4780 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 13.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,807.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 27.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 836.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำเนื่องจากประเด็นการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นและย้ายฐานการลงทุนเข้ามาในตลาดทองคำ
ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ และนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ตั้งแต่วันจันทร์ ซึ่งหากผู้นำสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐยังไม่สามารถตกลงกันได้ภายในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก็อาจทำให้สหรัฐต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยปัจจุบันเพดานหนี้ของสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGBEST Group กล่าวว่า หากสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ให้กับตลาดการเงินทั่วโลก และอาจจะสั่นคลอนเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนคาดว่า หากผู้นำสภาคองเกรสสามารถตกลงกันได้เรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ก็อาจจะทำให้สัญญาทองคำปรับฐานลงทันที