สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เงินเฟ้อในประเทศชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.6% ในเดือนกรกฎาคม นับว่าขยายตัวช้าลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน เปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสามารถตรึงดอกเบี้ยต่อไปได้ในการประชุมเดือนนี้
นายรัสมาน เฮเรียวัน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติ กล่าวว่า เงินเฟ้อเดือนมิถุนายนอยู่ที่ระดับ 5.54% ส่วนเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 5.58%
เมื่อเทียบรายเดือน เงินเฟ้อขยายตัวแตะ 0.67% ในเดือนกรกฎาคม จากระดับ 0.55% ในเดือนมิถุนายน อันเนื่องมาจากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว เนื่องจากความต้องการอาหารจะเพิ่มขึ้นก่อนถึงเดือนรอมฎอนซึ่งเริ่มวันที่ 1 สิงหาคม
บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 6.75% ในการประชุมวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เนื่องจากอินโดนีเซียต้องการรักษาเสถียรภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจ พร้อมกับการพึ่งพาการแข็งค่าของเงินรูเปียห์เพื่อควบคุมเงินเฟ้อจากเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศ
นายดาร์มิน นาซูติออน ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า เงินทุนไหลเข้าอินโดนีเซียและเงินรูเปียห์ที่แข็งค่าจะชะลอตัวลงหลังจากที่สหรัฐบรรลุข้อตกลงในการแก้ปัญหาหนี้สิน
สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและน้ำมันที่มีความผันผวน อยู่ที่ระดับ 4.55% ในเดือนกรกฎาคม จากระดับ 4.6% ในเดือนมิถุนายน
ธนาคารกลางอินโดนีเซียกล่าวว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นแตะ 5% และธนาคารกลางคาดการณ์ว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้หากรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอุดหนุนน้ำมัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน