เต็ง ยูซอง นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจการตลาด สำนักงานเพื่อการพัฒนาและปฎิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนยังคงมีการเคลื่อนไหวอย่างปกติเมื่อพิจารณาจากพื้นฐานอัตราราคาบ้านและรายได้ผู้อยู่อาศัย แต่พบว่ามีภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองขนาดใหญ่เช่นปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้
นายเต็งกล่าวว่า อัตราราคาบ้านต่อรายได้ผู้อยู่อาศัย เป็นอัตราส่วนระหว่างราคาทั้งหมดของพื้นที่ 100 ตารางเมตรของที่อยู่อาศัยเพื่อการพาณิชย์ใหม่ ต่อรายได้ต่อหัวประชากรของประชาชนในเขตเมืองของประเทศในระหว่างปี
นายเต็งคำนวณว่า อัตราราคาบ้านต่อรายได้สำหรับปี 2541-2553 ซึ่งมีระยเวลา 13 ปี พบว่ามีอัตราสูงสุดที่ 10.8 ในปี 2541 ส่วนอัตราต่ำสุดที่ 7.8 ในปี 2551 และค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9.24
หากพิจารณาจากมาตรฐานอัตราราคาบ้านต่อรายได้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาปกติและไม่บ่งชี้ถึงภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ตลอดทั้งประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม อัตราราคาบ้านต่อรายได้ในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มีอัตราที่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยเป็นอย่างมาก โดยอัตราส่วนในกรุงปักกิ่งแตะที่ 21 ในปี 2553
นายเต็งกล่าวสรุปว่า ปัจจัยหลักในการผลักดันตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ประกอบไปด้วย การขยายตัวอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากร การขาดแคลนอุปทานที่อยู่อาศัย และสัดส่วนที่สูงจากการคาดการณ์ด้านการลงทุน
นายเต็งแนะนำว่า มาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์จะต้องเป็นการผสมผสานกันระหว่างนโยบายการสร้างเสถียรภาพและมีความเป็นกลาง ส่วนในหลายเมืองที่บ้านมีราคาสูง ควรใช้นโยบายที่ยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อสร้างสเถียรภาพด้านอุปสงค์ที่อยู่อาศัยและเพิ่มอุปทาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน