สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงอีกเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่น หุ้น เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 8.9 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,742.6 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเป็นการปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันหลังจากพุ่งทำนิวไฮไปเมื่อวันพุธ
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 44.5 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 39.114 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ขยับขึ้น 0.35 เซนต์ ปิดที่ 4.012 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ขยับขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,796.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 14.40 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 748.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ช่วงขาลงของตลาดเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นสามวันทำการติดต่อกันในช่วงต้นสัปดาห์ โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืนมาได้บ้าง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้น แต่ไม่เป็นผลดีต่อการซื้อขายทองคำ
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 3.904 แสนล้านดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบสี่เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิถุนายน ถือเป็นสัญญาณบวกท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
ขณะเดียวกัน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ลดการถือครองทองคำลงอีก 23.6 ตันเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการขายออกมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ส่งผลกดดันตลาดทองคำเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดัน หลังจากที่บริษัท ซีเอ็มอี กรุ๊ป ประกาศ ณ เวลาปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะปรับขึ้นค่ามาร์จิน (หรือเงินประกันขั้นต่ำที่นักลงทุนจะต้องวางไว้กับบริษัทโบรกเกอร์) สำหรับสัญญาทองคำล่วงหน้าในตลาด COMEX เป็น 7,425 ดอลลาร์/สัญญา จากเดิม 6,075 ดอลลาร์/สัญญา โดยมีจุดประสงค์เพื่อสกัดกั้นการเก็งกำไรในตลาดทองคำ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าราคาทองปรับตัวลงสองวันติดต่อกัน แต่ตลาดทองคำก็ยังปิดพุ่งแข็งแกร่ง 5.5% ในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นหกสัปดาห์ติดต่อกัน
เทรดเดอร์กล่าวว่า ทองคำยังคงมีแรงหนุนในระยะสั้น เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความหวั่นวิตกต่อปัญหาหนี้ยุโรปที่ยืดเยื้อนั้น ยังคงมีอยู่