หวัง กวงหลิง นักวิเคราะห์ประจำเว็บไซต์ฝูเป่า อินฟอร์เมชัน เปิดเผยหลังออกสำรวจบรรดาบริษัททองแดงในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีนพบว่า โรงงานแปรรูปทองแดงขนาดกลางและย่อมกำลังเผชิญสภาวะกดดันอย่างหนักจนอาจถึงกับต้องปิดตัวลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายเพิ่มสูง ทั้งยังขาดแคลนไฟฟ้าและขาดสภาพคล่องจนส่งผลกระทบต่อผลกำไร
ราคาทองแดงในประเทศจีนผันผวนอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก โดยขณะนี้ราคาอยู่ที่ราว 70,000 หยวนต่อตัน พุ่งขึ้นมาถึง 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปัจจัยด้านราคานี้ทำให้บริษัททองแดงขนาดเล็กมีความระมัดระวังในการกักตุนวัตถุดิบ และลังเลที่จะลงทุนจับจ่ายในปริมาณมาก
ฝูเป่า อินฟอร์เมชันยังเผยด้วยว่า การขาดแคลนไฟฟ้าและปัญหาการเงินขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของบริษัทผลิตโลหะนอกกลุ่มเหล็กในมณฑลกวางตุ้งด้วยเช่นกัน
-- สื่อท้องถิ่น ชางชวน อีฟนิง นิวส์ รายงานว่า เอฟเอดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของจีน ลงนามความร่วมมือกับ เป่าสตีล อินเตอร์เนชันแนล เพื่อทำกิจการร่วมค้าในมณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
กิจการร่วมทุนดังกล่าวจะเน้นที่การผลิตชิ้นส่วนเหล็กสำหรับใช้กับยานพาหนะ
ความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัทเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในการร่วมกันพัฒนาเหล็กรีดเย็นชนิดม้วนสำหรับใช้กับรถเก๋งช่วงต้นยุค 1990
-- บรรดาผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมกล่าวว่า อานิสงส์จากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้บริษัทหลอมโลหะที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นจีนต่างมีผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ต้องนำเข้าวัตถุดิบเป็นส่วนใหญ่ เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจึงช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานลงไปได้มากและหนุนให้ผลการดำเนินงานดีขึ้น