สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศยูโรโซน และความผิดหวังที่มีต่อผลการประชุมระหว่างผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศส ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 27 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,785 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,763.60-1,789.80 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 39.819 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 51.2 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.8 เซนต์ ปิดที่ 3.994 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,818.10 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 20.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 756.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.15 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่สถานะทางเศรษฐกิจและการคลังในยูโรโซนยังคงอ่อนแอ โดยยูโรสแตทรายงานว่า เศรษฐกิจของ 17 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกัน หรือ ยูโรโซน ขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาส 2 เทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.8% และเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะขยายตัว 0.3%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวมาจากเศรษฐกิจเยอรมนีที่ขยายตัวเพียง 0.1% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ขยายตัว 1.3% ในไตรมาสแรก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจโดยรวมในยูโรโซนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรง
ในการประชุมฉุกเฉินซึ่งมีขึ้นเมื่อวานนี้ นางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ประกาศแผนการเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านการบริหารจัดการยูโรโซน พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องสกุลเงินยูโร
แต่นักวิเคราะห์มองว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ช่วยขจัดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของยูโรโซน และไม่ได้บ่งชี้ว่าที่ประชุมมีแผนที่จะใช้มาตรการใดๆในการแก้ปัญหาหนี้ในยูโรโซนด้วย ซึ่งความผิดหวังต่อผลการประชุมผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีนับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง