รายงานการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 3-4 ส.ค.ระบุว่า สมาชิกของคณะกรรมาธิการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางทั้ง 9 คนมีมติเป็นเอกฉันท์ในการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ต่อไป
สำหรับการประชุมดังกล่าวนั้น นายอดัม โพเซน ยังคงต้องการให้มีการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มโครงการซื้อพันธบัตรอีก 5.0 หมื่นล้านปอนด์ (8.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปัจจุบันที่ 2 แสนล้านปอนด์ ขณะที่นายสเปนเซอร์ เดล และนายมาร์ติน วีล ล้มเลิกความพยายามผลักดันการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ เนื่องจากวิกฤตยูโรโซนและมีสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกกำลังเป็นภัยคุกคามการขยายตัวในอังกฤษ
การตัดสินใจตรึงดอกเบี้ยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2553 ที่ไม่มีบอร์ดผู้ใดลงมติให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเป็นครั้งแรกหลังจากที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี ที่ระดับ 37,100 รายจากเดือนมิ.ย.มาอยู่ที่ระดับ 1.56 ล้านราย เนื่องจากการฟื้นตัวบ่งชี้ถึงสัญญาณของภาวะซบเซา ทั้งนี้ ในขณะที่เงินเฟ้อเคลื่อนไหวแตะระดับ 4.4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกำหนดไว้ในระดับ 2% นั้น นายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า วิกฤตหนี้ยุโรปเสี่ยงที่จะทำให้เงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมายมากจนเกินไป
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมายังไม่มั่นคงพอที่จะทำให้ธนาคารยกเลิกมาตรการกระตุ้นบางอย่างได้ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวไปได้ทั้งสองทิศทางในระยะกลาง แต่ภาพรวมในเดือนนี้มีความเสี่ยงต่อภาวะขาลงมากขึ้น
ทั้งนี้ เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์หลังจากที่มีการเปิดเผยรายงานหลังการประชุม