ปธน.อินโดนีเซียเสนอเพิ่มงบประมาณใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคในปี 2555

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 18, 2011 12:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายซูลิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้เสนอร่างงบประมาณมูลค่ามหาศาลสำหรับปี 2555 ที่มุ่งเน้นเรื่องการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคและโครงการด้านสังคม ขณะเดียวกันก็เสนอให้มีการลดเงินอุดหนุนบางด้าน โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวเร็วขึ้น

ทั้งนี้ ประธานาธิบดียุดโดโยโนได้เสนอให้มีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 7.4% เป็น 1,418.5 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.6596 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากงบประมาณในปี 2554 ที่ระดับ 1,320.8 ล้านล้านรูเปียห์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานะของเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ประธานาธิบดีกล่าวว่า อินโดนีเซียซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น จะขยายตัว 6.7% ในปีหน้า เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการในปีนี้ที่ 6.5% ขณะที่การลงทุน การอุปโภคบริโภค และการส่งออกยังคงแข็งแกร่งมาก

ยุดโดโยโนกล่าวว่า เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าอินโดนีเซียจำเป็นต้องยกระดับประสิทธิภาพของถนน สนามบิน และสาธารณูปโภคด้านต่างๆที่จำเป็นต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลจะปรับเพิ่มการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคอีก 19% เป็น 168.1 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2555 เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ระดับ 150.9 ล้านล้านรูเปียห์

"การเพิ่มงบประมาณมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงสาธารณูปโภคในด้านต่างๆ รวมถึงพลังงาน ความมั่นคงด้านอาหาร และการสื่อสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าและประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อภายในภูมิภาค" ประธานาธิบดียุดโดโยโนกล่าวในแถลงการณ์ประจำปีต่อรัฐสภาอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ ประธานาธิบดียุดโดโยโนกล่าวว่า การใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคครอบคลุมถึงโครงการสร้างทางรถไฟความยาว 150 กิโลเมตร ถนนสายต่างๆที่มีความยาว 4,005 กิโลเมตร สะพานยาว 8 กิโลเมตร และสนามบินใหม่อีก 14 แห่ง ขณะเดียวกันก็จะมีการบำรุงรักษาและซ่อมแซมถนนกว่า 36,000 กิโลเมตรที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน สะพานความยาว 217 กิโลเมตรที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน และสนามบินที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน 116 แห่ง

หนังสือพิมพ์จาการ์ต้า โกลบ รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียวางแผนที่จะเพิ่มรายได้อีก 11% เป็น 1,292.9 ล้านล้านรูเปียห์ในปีหน้า พร้อมกับลดการขาดดุลลงสู่ระดับ 125.6 ล้านล้านรูเปียห์ หรือคิดเป็น 1.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีพีดี) ลดลงจากระดับ 150.8 ล้านล้านรูเปียห์ หรือ 2.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ