นายเวย์น สวอน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า ไม่มีวิธีแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วสำหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้า เช่น ภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่าภาคอุตสาหกรรมของประเทศจะยังคงขยายตัวได้
นายสวอนระบุในรายงานเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ว่า "ถึงแม้ว่าบรรดาผู้ผลิตกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ผมไม่สงสัยเลยว่าออสเตรเลียจะยังคงเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้า เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ เพียงแต่อาจมีการเปลี่ยนแปลง"
นายสวอนระบุว่า กระทรวงการคลังออสเตรเลียคาดว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของออสเตรเลียจะขยายตัวราว 5% ไปจนถึงปี 2563 โดยอุตสาหกรรมทรัพยากรจะขยายตัว 77% และการก่อสร้างขยายตัว 50% ในขณะที่ภาคบริการจะขยายตัว 38% ในช่วงอีก 9 ปีข้างหน้า เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่ออสเตรเลียกลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวและการศึกษาสำหรับชนชั้นกลางในเอเชีย
อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ของออสเตรเลีย เช่น แร่เหล็ก และ ถ่านหิน กำลังผลักดันการลงทุนในเหมืองแร่อย่างคึกคักด้วยโครงการมูลค่ากว่า 4.3 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ภาวะดังกล่าวบวกกับยอดหนี้สินที่อยู่ในระดับต่ำของรัฐบาล และอุตสาหกรรมธนาคารที่แข็งแกร่ง ช่วยหนุนให้เงินสกุลดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งแตะระดับ 1.1081 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่ออสเตรเลียปล่อยให้ค่าเงินลอยตัวในปี 2526
นายเกล็น สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียก่าวว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย การบริโภคที่ลดลง และเงินออมที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นข้อเท็จจริงใหม่สำหรับเศรษฐกิจออสเตรเลีย และหนทางเดียวที่ภาคอุตสาหกรรมจะต้องรับมือก็คือ การพลิกฟื้นผลิตภาพที่ลดลง