สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) เนื่องจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำและย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.3% แตะที่ 1,791.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,778.10-1,841.50 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 40.6 เซนต์ ปิดที่ 40.546 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 4.089 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,825 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 753.95 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและย้านเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. มากกว่าเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนในตลาดหุ้นนิวยอร์กว่า ในช่วงเช้านั้น สัญญาทองคำทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวันก่อน แต่ในช่วงบ่าย สัญญาทองคำเริ่มดิ่งลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากตลาดหุ้นพุ่งขึ้นขานรับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
สัญญาทองคำร่วงลงประมาณ 3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ โดยสัญญาทองคำร่วงลงนับตั้งที่ไม่สามารถปิดเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์/ออนซ์ได้เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว