สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) หลังจากสหรัฐและยุโรปเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการประชุมเดือนก.ย.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 38.20 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,829.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 85.2 เซนต์ ปิดที่ 41.398 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.4 เซนต์ ปิดที่ 4.123 ดอลลาร์/ปอนด์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจและตลาดการเงินทั่วโลกยังคงผันผวน โดยเมื่อวานนี้คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 44.5 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 เนื่องจากชาวอเมริกันวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มรายได้และการจ้างงาน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของกลุ่มผู้บริโภคในยุโรป ร่วงลง 4.7 จุด มาอยู่ที่ระดับ 98.3 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 6 เดือน โดยในบรรดา 7 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรปนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นของเยอรมนีร่วงลงมากที่สุดถึง 5.7 จุด ตามมาด้วยอังกฤษ 5.6 จุด และสเปน 0.3 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อมีการคาดการณ์ว่า แม้เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ในที่ประชุมธนาคารกลางโลกที่รัฐไวโอมิงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอของหสรัฐอาจจะผลักดันให้เฟดใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมเฟดวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ซึ่งอาจจะรวมถึงการซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้น