สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 55 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น หลังจากนักลงคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 55.7 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 1,817.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับรอบ 2 สัปดาห์ โดยระหว่างวัน สัญญาทองคำเดือนธ.ค.เคลื่อนตัวในช่วง 1,793.80-1,883.20 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 23.7 เซนต์ ปิดที่ 41.631 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.6 เซนต์ ปิดที่ 4.132 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมเดือนต.ค.ปิดที่ 1,828.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 29.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 752.70 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 3.15 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในคนในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นเอเชีย ยุโรป และสหรัฐ ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นในยุโรปทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่าศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีมีคำสั่งยกฟ้องรัฐบาลเยอรมนีในข้อหาจ่ายเงินสมทบมาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศต่างๆในยูโรโซน
ไมค์ ดาลีย์ นักวิเคราะห์ด้านทองคำจากบริษัทพีเอฟจีเบสท์ กรุ๊ป กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเทรดเดอร์จำนวนมากจะยังคงเทขายสัญญาทองคำ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐจะประกาศแผนการสร้างที่แข็งแกร่ง"
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการปรับฐานในระยะสั้นจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากความต้องการทองคำยังคงแข็งแกร่ง และคาดว่าจะมีแรงซื้อส่งเข้าหนุนทองคำอีก